เคมี ม.5 ปฏิกิริยารีดอกซ์

ปฏิกิริยารีดอกซ์ (Redox reaction) คือ ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดการถ่ายโอนอิเล็กตรอนระหว่างสาร ปฏิกิริารีดอกซ์ประกอบด้วยปฏิกิริยา 2 ครึ่งปฏิกิริยา คือ

  • ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidation) คือ ปฏิกิริยาที่อะตอมสูญเสียอิเล็กตรอนหรือมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้น
  • ปฏิกิริารีดักชัน (reduction) คือ ปฏิกิริยาที่อะตอมได้รับอิเล็กตรอนหรือมีเลขออกซิเดชันลดลง

ตัวอย่างปฏิกิริยารีดอกซ์

  1. ปฏิกิริยาระหว่างเหล็กกับออกซิเจน
1
Fe + O2 → Fe2O3

ในปฏิกิริยานี้ เหล็กสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจน ส่งผลให้เหล็กมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้นจาก 0 เป็น +2 และออกซิเจนได้รับอิเล็กตรอนจากเหล็ก ส่งผลให้ออกซิเจนมีเลขออกซิเดชันลดลงจาก 0 เป็น -2

  1. ปฏิกิริยาระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์กับกรดไฮโดรคลอริก
1
NaOH + HCl → NaCl + H2O

ในปฏิกิริยานี้ โซเดียมไฮดรอกไซด์บริจาคอิเล็กตรอนให้กับกรดไฮโดรคลอริก ส่งผลให้โซเดียมมีเลขออกซิเดชันลดลงจาก +1 เป็น -1 และไฮโดรเจนมีเลขออกซิเดชันเพิ่มขึ้นจาก +1 เป็น +1

การเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยารีดอกซ์

การเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยารีดอกซ์สามารถทำได้ดังนี้

  1. เขียนสมการเคมีแบบธรรมดาก่อน
  2. กำหนดเลขออกซิเดชันของธาตุแต่ละชนิด
  3. ระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดซ์
  4. เขียนสมการเคมีแบบไอออน
  5. สมดุลอิเล็กตรอน
  6. เขียนสมการเคมีแบบโมเลกุล

ประโยชน์ของปฏิกิริยารีดอกซ์

ปฏิกิริยารีดอกซ์มีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น

  • ใช้ผลิตไฟฟ้า
  • ใช้ผลิตสารเคมี
  • ใช้ในกระบวนการทางชีวภาพ

สรุป

ปฏิกิริยารีดอกซ์ คือ ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดการถ่ายโอนอิเล็กตรอนระหว่างสาร ปฏิกิริารีดอกซ์ประกอบด้วยปฏิกิริยา 2 ครึ่งปฏิกิริยา คือ ปฏิกิริยาออกซิเดชันและปฏิกิริารีดักชัน การเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยารีดอกซ์สามารถทำได้โดยกำหนดเลขออกซิเดชันของธาตุแต่ละชนิด และระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดซ์