ความดันของแก๊ส (Pressure of gas) คือแรงที่กระทำต่อหน่วยพื้นที่ โดยความดันของแก๊สเกิดจากแรงจากการชนกันระหว่างโมเลกุลของแก๊สและชนกับผนังภาชนะ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความดันของแก๊ส
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความดันของแก๊สมีดังนี้
- จำนวนโมเลกุลของแก๊ส ยิ่งมีจำนวนโมเลกุลของแก๊สมาก ความดันของแก๊สก็จะยิ่งสูงขึ้น
- อุณหภูมิของแก๊ส ยิ่งมีอุณหภูมิของแก๊สสูง พลังงานจลน์ของโมเลกุลของแก๊สก็จะยิ่งสูงขึ้น ทำให้โมเลกุลของแก๊สเคลื่อนที่เร็วขึ้นและชนกับผนังภาชนะบ่อยขึ้น ส่งผลให้ความดันของแก๊สสูงขึ้น
- ปริมาตรของภาชนะ ยิ่งมีปริมาตรของภาชนะน้อย โมเลกุลของแก๊สก็จะอยู่ใกล้กันมากขึ้น ทำให้แรงจากการชนกันระหว่างโมเลกุลของแก๊สและชนกับผนังภาชนะสูงขึ้น ส่งผลให้ความดันของแก๊สสูงขึ้น
หน่วยของความดัน
หน่วยของความดันที่มักใช้คือ ปาสกาล (Pa) โดย 1 ปาสกาล (Pa) เท่ากับแรง 1 นิวตัน (N) กระทำต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร (m2)
ความสัมพันธ์ระหว่างความดัน อุณหภูมิ และปริมาตรของแก๊ส
ความสัมพันธ์ระหว่างความดัน อุณหภูมิ และปริมาตรของแก๊สสามารถแสดงได้โดยใช้ กฎของบอยล์ (Boyle’s law) และ กฎของชาร์ล (Charles’ law)
กฎของบอยล์ กล่าวว่า ความดันของแก๊สคงตัว ปริมาตรของแก๊สจะแปรผกผันกับอุณหภูมิสัมบูรณ์
กฎของชาร์ล กล่าวว่า ปริมาตรของแก๊สคงตัว ความดันของแก๊สจะแปรผันตรงกับอุณหภูมิสัมบูรณ์
ความดันรวมของแก๊ส
หากมีแก๊สหลายชนิดอยู่ในภาชนะเดียวกัน ความดันรวมของแก๊สจะเท่ากับผลรวมของความดันแต่ละชนิด
สรุป
ความดันของแก๊สเป็นสมบัติที่สำคัญของแก๊ส การศึกษาความดันของแก๊สช่วยให้เข้าใจและอธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแก๊สในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม