รังสี (Radiation) คือ การแผ่พลังงานออกไปในอวกาศหรือไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง รังสีสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic radiation) คือ รังสีที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่างๆ ตามความยาวคลื่นได้ดังนี้
- รังสีวิทยุ (Radio wave) มีความยาวคลื่นยาวที่สุด ใช้ในการสื่อสาร วิทยุโทรทัศน์
- ไมโครเวฟ (Microwave) มีความยาวคลื่นสั้นกว่ารังสีวิทยุ ใช้ในการสื่อสาร ไมโครเวฟ
- อินฟราเรด (Infrared) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าไมโครเวฟ ใช้ในการสื่อสาร การแพทย์
- แสง (Visible light) มีความยาวคลื่นที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใช้ในการมองเห็น
- อัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสง ใช้ในการฆ่าเชื้อโรค การแพทย์
- รังสีเอกซ์ (X-ray) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าอัลตราไวโอเลต ใช้ในการตรวจทางการแพทย์
- รังสีแกมมา (Gamma ray) มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ถ่ายภาพทางการแพทย์
- รังสีอนุภาค (Particle radiation) คือ รังสีที่เกิดจากอนุภาคที่มีพลังงานสูง รังสีอนุภาคสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่างๆ ได้ดังนี้
- รังสีแอลฟา (Alpha ray) ประกอบด้วยนิวเคลียสของธาตุฮีเลียม 2 อนุภาค
- รังสีบีตา (Beta ray) ประกอบด้วยอิเล็กตรอนหรือโพซิตรอน
- รังสีนิวตรอน (Neutron ray) ประกอบด้วยนิวตรอน
- รังสีคอสมิก (Cosmic ray) ประกอบด้วยอนุภาคที่มีพลังงานสูงจากอวกาศ
ประโยชน์ของรังสี
รังสีมีประโยชน์มากมาย เช่น
- ใช้ในการสื่อสาร
- ใช้ในการรักษาโรค
- ใช้ในการถ่ายภาพ
- ใช้ในการตรวจหาวัตถุต้องสงสัย
- ใช้ในการผลิตวัสดุ
อันตรายของรังสี
รังสีมีอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น
- ทำให้เกิดมะเร็ง
- ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อเสียหาย
- ทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ
การป้องกันอันตรายจากรังสี
เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี ควรปฏิบัติดังนี้
- อยู่ห่างจากแหล่งกำเนิดรังสี
- สวมใส่ชุดป้องกันรังสี
- ใช้วัสดุกัมมันตรังสีอย่างระมัดระวัง
สรุป
รังสีเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีทั้งประโยชน์และอันตราย จำเป็นต้องเข้าใจหลักการของรังสีเพื่อใช้ประโยชน์จากรังสีได้อย่างปลอดภัย