คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่เกิดจากการแผ่รังสีของสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถเคลื่อนที่ผ่านสุญญากาศได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง
สมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สำคัญ ได้แก่
- ความถี่ คือ จำนวนรอบของคลื่นที่ผ่านจุดหนึ่งในเวลาหนึ่งวินาที หน่วยของความถี่คือ เฮิรตซ์ (Hz)
- ความยาวคลื่น คือ ระยะห่างระหว่างจุดยอดของคลื่นสองจุดที่อยู่ติดกัน หน่วยของความยาวคลื่นคือ เมตร (m)
- ความเร็ว คือ อัตราเร็วในการเคลื่อนที่ของคลื่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความเร็วเท่ากับความเร็วของแสง เท่ากับ 3 × 10^8 เมตรต่อวินาที
ชนิดของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็นชนิดต่างๆ ตามความยาวคลื่นได้ดังนี้
- คลื่นวิทยุ (Radio wave) มีความยาวคลื่นยาวที่สุด ใช้ในการสื่อสาร วิทยุโทรทัศน์
- ไมโครเวฟ (Microwave) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าคลื่นวิทยุ ใช้ในการสื่อสาร ไมโครเวฟ
- อินฟราเรด (Infrared) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าไมโครเวฟ ใช้ในการสื่อสาร การแพทย์
- แสง (Visible light) มีความยาวคลื่นที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใช้ในการมองเห็น
- อัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสง ใช้ในการฆ่าเชื้อโรค การแพทย์
- รังสีเอกซ์ (X-ray) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าอัลตราไวโอเลต ใช้ในการตรวจทางการแพทย์
- รังสีแกมมา (Gamma ray) มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด ใช้ในการแพทย์ อุตสาหกรรม
ประโยชน์ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น
- ใช้ในการสื่อสาร เช่น วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ
- ใช้ในการแพทย์ เช่น การถ่ายภาพรังสี การบำบัดโรค
- ใช้ในการอุตสาหกรรม เช่น การเชื่อม การอบแห้ง
- ใช้ในการเกษตรกรรม เช่น การกำจัดวัชพืช
สรุป
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย ความเข้าใจหลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะช่วยให้เราเข้าใจปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น การมองเห็น การแผ่รังสีความร้อน เป็นต้น