ของแข็งและของไหล เป็น 2 สถานะของสสารที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ของแข็งมีรูปร่างและปริมาตรคงที่ ส่วนของไหลมีรูปร่างและปริมาตรเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่บรรจุ
สมบัติของของแข็ง
- มีรูปร่างและปริมาตรคงที่
- ไม่สามารถอัดได้
- โมเลกุลของของแข็งมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างกันมาก
สมบัติของของไหล
- มีรูปร่างและปริมาตรเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่บรรจุ
- สามารถอัดได้
- โมเลกุลของของไหลมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างกันน้อยกว่าของแข็ง
สมบัติทั่วไปของของไหล
- ความหนาแน่น คือ มวลต่อปริมาตรของของไหล
- ความดัน คือ แรงกระทำต่อหน่วยพื้นที่
- ความตึงผิว คือ แรงที่กระทำระหว่างโมเลกุลของของไหลในบริเวณผิวหน้าของของไหล
- ความหนืด คือ คุณสมบัติของของไหลที่ทำให้เคลื่อนที่ได้ช้าลง
ประเภทของของไหล
- ของเหลว คือ ของไหลที่มีรูปร่างและปริมาตรเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่บรรจุ แต่มีปริมาตรคงที่เมื่ออยู่ในภาชนะเดียวกัน
- แก๊ส คือ ของไหลที่ไม่มีรูปร่างและปริมาตรคงที่ แต่จะขยายตัวจนเต็มภาชนะที่บรรจุ
การไหลของของไหล
การไหลของของไหลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- การไหลแบบราบเรียบ (laminar flow) เป็นการเคลื่อนที่อย่างเป็นระเบียบ โดยชั้นของไหลที่อยู่ติดกันจะเลื่อนผ่านกันอย่างราบเรียบไม่ปะปนกัน และเส้นทางการไหลของแต่ละอนุภาคจะไม่ตัดกัน
- การไหลแบบปั่นป่วน (turbulent flow) เป็นการเคลื่อนที่อย่างไม่เป็นระเบียบ โดยชั้นของไหลที่อยู่ติดกันจะปะปนกัน และเส้นทางการไหลของแต่ละอนุภาคจะตัดกัน
ตัวอย่างของแข็งและของไหล
- ของแข็ง ได้แก่ เหล็ก ไม้ แก้ว น้ำแข็ง
- ของไหล ได้แก่ น้ำ น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ
ประโยชน์ของของแข็งและของไหล
- ของแข็งและของไหลถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น
- ของแข็งใช้ทำวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
- ของไหลใช้ทำอาหาร เครื่องดื่ม ยา
- ของไหลยังใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น การผลิตรถยนต์ เครื่องบิน
สรุป
ของแข็งและของไหลเป็น 2 สถานะของสสารที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ของแข็งมีรูปร่างและปริมาตรคงที่ ส่วนของไหลมีรูปร่างและปริมาตรเปลี่ยนแปลงไปตามภาชนะที่บรรจุ สมบัติทั่วไปของของไหล ได้แก่ ความหนาแน่น ความดัน ความตึงผิว และความหนืด การไหลของของไหลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ การไหลแบบราบเรียบและการไหลแบบปั่นป่วน