เคมี ม.4 ปฏิกิริยาเคมีของแก๊สและการคำนวณ

ปฏิกิริยาเคมีของแก๊ส คือ ปฏิกิริยาเคมีที่ผลิตภัณฑ์หรือสารตั้งต้นเป็นแก๊ส ปฏิกิริยาเคมีของแก๊สเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น

  • ปฏิกิริยารวมตัว (combination reaction)
  • ปฏิกิริยาแตกตัว (decomposition reaction)
  • ปฏิกิริยาแทนที่ (displacement reaction)

การคำนวณปริมาณของแก๊ส

ปริมาณของแก๊สสามารถคำนวณได้จากกฎของแก๊สอุดมคติ (ideal gas law) ซึ่งกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างความดัน ปริมาตร อุณหภูมิ และจำนวนโมลของแก๊ส ดังนี้

1
PV = nRT

โดยที่

  • P คือ ความดัน (Pa)
  • V คือ ปริมาตร (m3)
  • n คือ จำนวนโมล (mol)
  • R คือ ค่าคงตัวของแก๊สอุดมคติ (8.314 J/mol·K)
  • T คือ อุณหภูมิ (K)

ตัวอย่างการคำนวณปริมาณของแก๊ส

  • ปฏิกิริยาระหว่างแก๊สไฮโดรเจนกับแก๊สออกซิเจนเกิดเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
1
2H2(g) + O2(g) → 2CO2(g) + 2H2O(g)

สมมติว่าปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นที่ความดัน 1 atm และอุณหภูมิ 25 °C ปริมาณของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากแก๊สไฮโดรเจน 2 mol และแก๊สออกซิเจน 1 mol คือ

1
nCO2 = (2molO2)/2 = 1mol

ดังนั้น ปริมาตรของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากปฏิกิริยานี้คือ

1
VCO2 = nCO2 * RT/P
1
VCO2 = (1mol) * (8.314 J/mol·K) * (298 K) / (1 atm)
1
VCO2 = 5.06 L

กฎของแก๊สอุดมคติ

กฎของแก๊สอุดมคติ (ideal gas law) กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างความดัน ปริมาตร อุณหภูมิ และจำนวนโมลของแก๊ส ดังนี้

1
PV = nRT

โดยที่

  • P คือ ความดัน (Pa)
  • V คือ ปริมาตร (m3)
  • n คือ จำนวนโมล (mol)
  • R คือ ค่าคงตัวของแก๊สอุดมคติ (8.314 J/mol·K)
  • T คือ อุณหภูมิ (K)

ข้อควรระวัง

  • กฎของแก๊สอุดมคติใช้ได้กับแก๊สที่อุณหภูมิสูงและความดันต่ำ
  • กฎของแก๊สอุดมคติไม่สามารถใช้ได้กับแก๊สที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง เนื่องจากแก๊สเหล่านี้จะมีพฤติกรรมแตกต่างจากแก๊สอุดมคติ

สรุปได้ว่า ปฏิกิริยาเคมีของแก๊ส คือ ปฏิกิริยาเคมีที่ผลิตภัณฑ์หรือสารตั้งต้นเป็นแก๊ส ปริมาณของแก๊สสามารถคำนวณได้จากกฎของแก๊สอุดมคติ