เคมี ม.4 อันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี

อันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี เกิดจากรังสีที่แผ่ออกมาจากการสลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรังสี รังสีเหล่านี้สามารถทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายได้ อันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  • ผลกระทบแบบเฉียบพลัน เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เกิดอาการ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย จนถึงเสียชีวิตได้
  • ผลกระทบแบบเรื้อรัง เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณน้อยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคความพิการทางพันธุกรรม และโรคอื่นๆ ตามมาได้

ผลกระทบแบบเฉียบพลัน

ผลกระทบแบบเฉียบพลัน เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ รังสีจะทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
  • ท้องเสีย
  • เลือดออก
  • ช็อก
  • เสียชีวิต

ผลกระทบแบบเรื้อรัง

ผลกระทบแบบเรื้อรัง เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณน้อยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน รังสีจะทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายอย่างช้าๆ ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น

  • โรคมะเร็ง
  • โรคความพิการทางพันธุกรรม
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • โรคตับ
  • โรคไต
  • โรคระบบประสาท

การป้องกันอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี

การป้องกันอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสีสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี
  • สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสี

ตัวอย่างของอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสี

  • อุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในปี ค.ศ. 1986 ส่งผลให้ประชาชนกว่า 300,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และมีผู้ได้รับรังสีจำนวนมาก
  • ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิในปี ค.ศ. 1945 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
  • โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง พบว่ามีความสัมพันธ์กับการได้รับรังสี

สรุป

ไอโซโทปกัมมันตรังสีเป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากรังสีที่แผ่ออกมาสามารถทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายได้ การป้องกันอันตรายจากไอโซโทปกัมมันตรังสีสามารถทำได้หลายวิธี เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี และตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสี