กัมมันตภาพรังสี (Radioactivity) คือ ปรากฏการณ์ที่ธาตุหรือไอโซโทปที่ไม่เสถียรเกิดการแผ่รังสีออกมา ซึ่งรังสีที่แผ่ออกมานั้นอาจเป็นรังสีแอลฟา (α) รังสีบีตา (β) หรือรังสีแกมมา (γ)
การเกิดกัมมันตภาพรังสีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียสของธาตุหรือไอโซโทปที่ไม่เสถียร การเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียสนี้อาจส่งผลให้นิวเคลียสมีพลังงานลดลงและกลายเป็นนิวเคลียสของธาตุหรือไอโซโทปอื่น
รังสีแอลฟา (α) เป็นรังสีที่มีอนุภาคเป็นนิวเคลียสของอะตอมฮีเลียม มีมวลประมาณ 4 หน่วยมวลอะตอม และประจุไฟฟ้า +2
รังสีบีตา (β) เป็นรังสีที่มีอนุภาคเป็นอิเล็กตรอนหรือโพซิตรอน มีมวลประมาณ 0.0005 หน่วยมวลอะตอม และประจุไฟฟ้า -1 หรือ +1
รังสีแกมมา (γ) เป็นรังสีที่มีพลังงานสูงมาก เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่มีมวลและไม่มีประจุไฟฟ้า
ประโยชน์ของกัมมันตภาพรังสี
กัมมันตภาพรังสีมีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น
- ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
- ใช้ในการตรวจหาโรค
- ใช้ในการผลิตอาหาร
- ใช้ในการผลิตพลังงาน
- ใช้ในการตรวจสอบวัสดุ
อันตรายของกัมมันตภาพรังสี
กัมมันตภาพรังสีเป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากรังสีสามารถทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของร่างกายได้ อันตรายของกัมมันตภาพรังสีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- ผลกระทบแบบเฉียบพลัน เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เกิดอาการ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย จนถึงเสียชีวิตได้
- ผลกระทบแบบเรื้อรัง เกิดจากได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณน้อยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคความพิการทางพันธุกรรม และโรคอื่นๆ ตามมาได้
การป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
การป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสีสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี
- สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อต้องสัมผัสกับแหล่งกำเนิดกัมมันตภาพรังสี
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสี
สรุป
กัมมันตภาพรังสีเป็นปรากฏการณ์ที่ธาตุหรือไอโซโทปที่ไม่เสถียรเกิดการแผ่รังสีออกมา ซึ่งรังสีที่แผ่ออกมานั้นอาจเป็นรังสีแอลฟา รังสีบีตา หรือรังสีแกมมา กัมมันตภาพรังสีมีประโยชน์ในหลายด้าน แต่ก็มีอันตรายต่อร่างกายด้วย