พันธะเคมี คือ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมหรือกลุ่มอะตอมในโมเลกุล ที่ทำให้อะตอมหรือกลุ่มอะตอมมาอยู่รวมกันเป็นโมเลกุล พันธะเคมีมี 3 ประเภทหลักๆ คือ
- พันธะโคเวเลนต์ (Covalent bond) คือ พันธะเคมีที่เกิดจากอะตอมสองอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน พันธะโคเวเลนต์มี 3 ชนิดย่อยๆ คือ
- พันธะเดี่ยว (Single bond) เกิดจากอะตอมสองอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน 1 คู่
- พันธะคู่ (Double bond) เกิดจากอะตอมสองอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน 2 คู่
- พันธะสาม (Triple bond) เกิดจากอะตอมสองอะตอมใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน 3 คู่
- พันธะไอออนิก (Ionic bond) คือ พันธะเคมีที่เกิดจากอะตอมหนึ่งอะตอมให้อิเล็กตรอนแก่อีกอะตอมหนึ่ง พันธะไอออนิกเกิดจากอะตอมที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนไม่พออยู่รวมกับอะตอมที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนเกิน
- พันธะโลหะ (Metallic bond) คือ พันธะเคมีที่เกิดจากอะตอมโลหะใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน พันธะโลหะเกิดจากอะตอมโลหะที่มีเวเลนต์อิเล็กตรอนจำนวนมาก อิเล็กตรอนเหล่านี้จะเคลื่อนที่ไปทั่วทั้งก้อนโลหะ ทำให้ก้อนโลหะมีสมบัติเป็นสื่อไฟฟ้าและความร้อนที่ดี
การเกิดพันธะเคมี
การเกิดพันธะเคมีเกิดจากอะตอมต้องการที่จะเติมเวเลนต์อิเล็กตรอนให้ครบ 8 หรือใกล้เคียง 8 อิเล็กตรอนในวงโคจรชั้นนอกสุด อะตอมจะสร้างพันธะเคมีกับอะตอมอื่นเพื่อเติมเวเลนต์อิเล็กตรอนให้ครบ
สมบัติของพันธะเคมี
พันธะเคมีมีสมบัติดังนี้
- แรงยึดเหนี่ยว พันธะเคมีมีแรงยึดเหนี่ยวที่ทำให้อะตอมหรือกลุ่มอะตอมมาอยู่รวมกันเป็นโมเลกุล
- ความเป็นขั้ว พันธะเคมีอาจมีความขั้วหรือไม่ขั้วก็ได้ พันธะโคเวเลนต์ที่มีความไม่เท่ากันของอิเล็กตรอนจะถูกเรียกว่าพันธะโคเวเลนต์แบบขั้ว พันธะไอออนิกเป็นพันธะเคมีที่มีความขั้วสูง
- ความยาวพันธะ ความยาวพันธะเป็นระยะห่างระหว่างอะตอมสองอะตอมในพันธะเคมี ความยาวพันธะจะแปรผันตามแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมสองอะตอม
ประโยชน์ของพันธะเคมี
พันธะเคมีมีความสำคัญต่อการเกิดสารต่างๆ ในธรรมชาติ พันธะเคมีช่วยให้อะตอมหรือกลุ่มอะตอมมาอยู่รวมกันเป็นโมเลกุล โมเลกุลเหล่านี้เป็นหน่วยพื้นฐานของสารต่างๆ ในธรรมชาติ
สรุป
พันธะเคมีเป็นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมหรือกลุ่มอะตอมในโมเลกุล พันธะเคมีมี 3 ประเภทหลักๆ คือ พันธะโคเวเลนต์ พันธะไอออนิก และพันธะโลหะ พันธะเคมีมีความสำคัญต่อการเกิดสารต่างๆ ในธรรมชาติ