ฟิสิกส์ ม.5 การแทรกสอดของคลื่น

การแทรกสอดของคลื่น (Interference of waves) เป็นการรวมกันของคลื่นที่เดินทางในทิศทางเดียวกัน คลื่นที่เดินทางมารวมกันจะเกิดการเสริมหรือหักล้างกันขึ้นอยู่กับเฟสของคลื่น ณ จุดที่เกิดการรวมกัน

เงื่อนไขการแทรกสอด

การแทรกสอดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคลื่นที่เดินทางมารวมกันมีคุณสมบัติเหมือนกัน ดังนี้

  • คลื่นต้องเดินทางในทิศทางเดียวกัน
  • คลื่นต้องมีความยาวคลื่นเท่ากัน
  • คลื่นต้องมีเฟสเท่ากัน หรือต่างกันเป็นจำนวนเต็มคูณด้วย 2π

ประเภทของการแทรกสอด

การแทรกสอดของคลื่นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  • การแทรกสอดแบบเสริม (Constructive interference) เกิดขึ้นเมื่อคลื่นที่เดินทางมารวมกันมีเฟสเหมือนกัน ส่งผลให้คลื่นที่รวมกันมีพลังงานมากขึ้น
  • การแทรกสอดแบบหักล้าง (Destructive interference) เกิดขึ้นเมื่อคลื่นที่เดินทางมารวมกันมีเฟสต่างกัน 180 องศา ส่งผลให้คลื่นที่รวมกันมีพลังงานเป็นศูนย์

ตัวอย่างการแทรกสอดของคลื่น

การแทรกสอดของคลื่นสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในธรรมชาติและชีวิตประจำวัน เช่น

  • คลื่นน้ำที่กระทบกับโขดหิน
  • แสงจากดวงดาวที่เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศ
  • ฟิล์มน้ำมันบนผิวน้ำ
  • แผ่นเสียง
  • เลเซอร์

สมการการแทรกสอด

สมการการแทรกสอดของคลื่นสามารถใช้คำนวณความเข้มของคลื่นที่รวมกันได้จากสมการดังนี้

1
I = I1 + I2 + 2√(I1 * I2) * cos(θ)

โดยที่

  • I คือ ความเข้มของคลื่นที่รวมกัน
  • I1 และ I2 คือ ความเข้มของคลื่นที่เดินทางมารวมกัน
  • θ คือ ความแตกต่างของเฟสระหว่างคลื่นที่เดินทางมารวมกัน

การประยุกต์ใช้การแทรกสอดของคลื่น

การแทรกสอดของคลื่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น

  • การวัดระยะทาง เช่น การวัดระยะทางของดาวฤกษ์โดยใช้กล้องโทรทรรศน์
  • การสร้างเครื่องออปติคัล เช่น เลนส์ กระจก และฟิลเตอร์
  • การสร้างวัสดุใหม่ๆ เช่น วัสดุที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงหรือดูดซับแสง

สรุป

การแทรกสอดของคลื่นเป็นปรากฏการณ์ที่คลื่นที่เดินทางมารวมกันเกิดการเสริมหรือหักล้างกัน ขึ้นอยู่กับเฟสของคลื่น ณ จุดที่เกิดการรวมกัน การแทรกสอดของคลื่นสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในธรรมชาติและชีวิตประจำวัน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ ได้มากมาย