กฎของโอห์ม (Ohm’s Law) ระบุว่า กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำชนิดใดๆ นั้นจะแปรผันตรงกับความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างปลายทั้งสองของตัวนำนั้น โดยอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าย่อมมีค่าคงที่ เรียกว่า ความต้านทาน
สมการของกฎของโอห์ม
1 | V = IR |
โดยที่
- V คือ ความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างปลายทั้งสองของตัวนำ (หน่วย: โวลต์)
- I คือ กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำ (หน่วย: แอมแปร์)
- R คือ ความต้านทานของตัวนำ (หน่วย: โอห์ม)
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้กฎของโอห์ม
กฎของโอห์มมีการประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในหลายสาขา เช่น
- เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดล้วนใช้กฎของโอห์มในการทำงาน
- วงจรไฟฟ้า กฎของโอห์มใช้คำนวณกระแสไฟฟ้า ความต้านทาน และแรงดันไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กฎของโอห์มใช้ออกแบบและทดสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
สรุป
กฎของโอห์มเป็นกฎพื้นฐานที่สำคัญในวิชาฟิสิกส์ ความเข้าใจหลักการของกฎของโอห์มจะช่วยให้เราอธิบายและประยุกต์ใช้ปรากฏการณ์ทางไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรจำ
กฎของโอห์มใช้ได้กับตัวนำชนิดใดๆ ที่อุณหภูมิคงที่เท่านั้น หากอุณหภูมิของตัวนำเปลี่ยนแปลง กฎของโอห์มอาจไม่ถูกต้อง