สรุป ฟิสิกส์ ม.5 การเคลื่อนที่

การเคลื่อนที่เป็นการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของวัตถุตามเวลา การเคลื่อนที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  • การเคลื่อนที่ในแนวตรง คือ การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เคลื่อนที่ไปในแนวเส้นตรง
  • การเคลื่อนที่ในแนวโค้ง คือ การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เคลื่อนที่ไปตามเส้นโค้ง

การเคลื่อนที่ในแนวตรง

การเคลื่อนที่ในแนวตรงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ คือ

  • การเคลื่อนที่แบบสม่ำเสมอ คือ การเคลื่อนที่ที่ความเร็วคงที่
  • การเคลื่อนที่แบบเร่งความเร็ว คือ การเคลื่อนที่ที่ความเร็วเปลี่ยนแปลงตามเวลา

การเคลื่อนที่แบบสม่ำเสมอ

การเคลื่อนที่แบบสม่ำเสมอสามารถอธิบายได้ด้วยสมการต่อไปนี้

1
x = vt

โดยที่

  • x คือ การกระจัดของวัตถุ ณ เวลา t
  • v คือ ความเร็วของวัตถุ
  • t คือ เวลา

การเคลื่อนที่แบบเร่งความเร็ว

การเคลื่อนที่แบบเร่งความเร็วสามารถอธิบายได้ด้วยสมการต่อไปนี้

1
x = v_0t + 1/2at^2

โดยที่

  • x คือ การกระจัดของวัตถุ ณ เวลา t
  • v_0 คือ ความเร็วเริ่มต้นของวัตถุ
  • a คือ ความเร่งของวัตถุ
  • t คือ เวลา

การเคลื่อนที่ในแนวโค้ง

การเคลื่อนที่ในแนวโค้งสามารถอธิบายได้ด้วยสมการต่อไปนี้

1
x = rθ

โดยที่

  • x คือ การกระจัดของวัตถุ ณ เวลา t
  • r คือ รัศมีของการเคลื่อนที่
  • θ คือ มุมที่วัตถุเคลื่อนที่

การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย

การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย (Simple Harmonic Motion) เป็นการเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีลักษณะดังนี้

  • วัตถุเคลื่อนที่เป็นวงกลมในแนวดิ่ง โดยจุดศูนย์กลางของวงกลมอยู่ที่จุดสมดุล
  • แรงกระทำต่อวัตถุเป็นแรงดึงกลับ (restoring force) เสมอ ซึ่งมีขนาดและทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ

สมการการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย

การเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายสามารถอธิบายได้ด้วยสมการต่อไปนี้

1
x = A sin(ωt + φ)

โดยที่

  • x คือ การกระจัดของวัตถุ ณ เวลา t
  • A คือ แอมปลิจูดของการเคลื่อนที่
  • ω คือ ความถี่เชิงมุมของการเคลื่อนที่
  • φ คือ เฟสเริ่มต้นของการเคลื่อนที่

ตัวอย่างการเคลื่อนที่ในชีวิตประจำวัน

  • รถยนต์ที่เคลื่อนที่บนถนน
  • รถไฟที่วิ่งบนราง
  • เครื่องบินที่บินบนท้องฟ้า
  • นาฬิกา
  • สปริง
  • สายสั่น
  • คลื่นน้ำ
  • คลื่นเสียง

สรุป

การเคลื่อนที่เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การเข้าใจหลักการของการเคลื่อนที่จะช่วยให้เราอธิบายและประยุกต์ใช้ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ